หลักเกณฑ์
วิธีการรับเรื่องร้องเรียน ร้องทุกข์
ขององค์การบริหารส่วนตำบลบัวสลี
1. วัตถุประสงค์
เพื่อให้การรับร้องเรื่องร้องเรียน
ร้องทุกข์ ขององค์การบริหารส่วนตำบลบัวสลี
สอดคล้องกับพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี
พ.ศ. 2546 และเกิดประโยชน์สุขแก่ประชาชน จึงประกาศหลักเกณฑ์การรับเรื่องร้องเรียน
ร้องทุกข์ ให้มีมาตรฐานและสามารถตอบสนองการแก้ไขปัญหาความเดือนร้อนของประชาชน
ดังนี้
2. หลักเกณฑ์การรับเรื่องร้องเรียน
ร้องทุกข์
2.1
เป็นเรื่องที่มีชื่อและที่อยู่ของผู้ร้อง ซึ่งสามารถตรวจสอบตัวตนได้
2.2 เรื่องที่นำมาร้องเรียน ร้องทุกข์
ต้องเป็นเรื่องที่ใช้ถ้อยคำสุภาพและเป็นกรณีผู้ร้องได้รับความเดือดร้อน
หรือเสียหาย หรือขอความช่วยเหลืออันเนื่องมาจากเจ้าหน้าที่
หรือหน่วยงานในสังกัดองค์การบริหารส่วนตำบลบัวสลี
2.3
หนังสือต้องระบุเรื่องอันเป็นเหตุให้ต้องร้องเรียน ร้องทุกข์ พร้อมทั้งข้อเท็จจริง
หรือพฤติการณ์ตามสมควร
2.4
ข้อเท็จจริงที่ได้ยื่นเรื่องร้องเรียน ร้องทุกข์
ต่อองค์การบริหารส่วนตำบลบัวสลีต้องเป็นเรื่อง
ที่เกิดขึ้นจริงทั้งหมด โดยผู้ร้องต้องรับผิดชอบต่อข้อเท็จจริงดังกล่าวข้างต้นทุกประการ
2.5
ผู้ใดนำความเท็จมาร้องเรียนต่อเจ้าหน้าที่ ซึ่งทำให้ผู้อื่นได้รับความเสียหาย
ผู้นั้นอาจต้องรับผิดตามประมวลกฎหมายอาญา
2.6
เรื่องที่ไม่ปรากฏตัวตนผู้ร้องหรือตรวจสอบตัวตนของผู้ร้องไม่ได้
หรือมีลักษณะเป็นบัตรสนเท่ห์ อาจรับไว้พิจารณาก็ได้ ถ้าหากระบุพยานหลักฐานแวดล้อมปรากฏชัดแจ้ง
ตลอดจนชี้พยานบุคคลแน่นอน
สามารถสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริงต่อไปได้และเป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ
3. วิธีการยื่นคำร้องเรียน ร้องทุกข์
3.1
ใช้ถ้อยคำสุภาพ และมี
- วัน เดือน ปี
- ชื่อ และที่อยู่
ของผู้ร้องเรียน ร้องทุกข์
- ข้อเท็จจริง หรือ พฤติการณ์ของเรื่องที่ร้องเรียน
ร้องทุกข์ ได้อย่างชัดเจนว่า ได้รับความเดือนร้อนหรือเสียหายอย่างไร
ต้องการให้แก้ไข ดำเนินการอย่างไร
หรือชี้ช่องทางเบาะแสเกี่ยวกับการทุจริตของเจ้าหน้าที่ หน่วยงาน ขององค์การบริหารส่วนตำบลบัวสลีได้ชัดแจ้งเพียงพอที่สามารถดำเนินการ
สืบสวน สอบสวนได้
- ระบุพยานเอกสาร
พยานวัตถุ และพยานบุคคล (ถ้ามี)
3.2 คำร้องเรียน ร้องทุกข์
อาจส่งทางไปรษณีย์ไปหน่วยงาน หรือองค์การบริหารส่วนตำบลบัวสลี หรือ ทาง Web site ขององค์การบริหารส่วนตำบลบัวสลีได้ ที่ www.buasalee.go.th, ศูนย์ข้อมูลข่าวสาร และศูนย์ช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมาย
- 2 -
4. ช่องทางการร้องเรียน ร้องทุกข์
4.1
จดหมาย ที่อยู่ องค์การบริหารส่วนตำบลบัวสลี หมู่ที่ 1 บ้านแม่มอญ ตำบลบัวสลี
อำเภอแม่ลาว จังหวัดเชียงราย 57250
4.2
ร้องเรียนด้วยตนเองเป็นหนังสือหรือด้วยวาจาได้ที่ศูนย์ข้อมูลข่าวสาร,
ศูนย์ช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมาย และศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์
ขององค์การบริหารส่วนตำบลบัวสลี สำนักงานปลัดองค์การบริหารส่วนตำบลบัวสลี
5. การจำหน่ายเรื่องร้องเรียน ร้องทุกข์
กรณีเรื่องร้องเรียน ร้องทุกข์
ที่ไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ในข้อ 2 องค์การบริหารส่วนตำบลบัวสลีอาจจำหน่วยเรื่องร้องเรียน
ร้องทุกข์ ดังกล่าวออกจากสาระบบการพิจารณา
6. การรับเรื่องร้องเรียน กรณี บัตรสนเท่ห์
ให้พิจารณาดำเนินการดังนี้
6.1
หนังสือเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ที่ นร 0206/ว 218 ลงวันที่ 25 ธันวาคม 2541 ซึ่งกำหนดหลักเกณฑ์และแนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับการร้องเรียนกล่าวโทษข้าราชการไว้โดยสรุปว่า
6.1.1
เมื่อผู้บังคับบัญชาได้รับเรื่องราวกล่าวโทษข้าราชการ ให้ถือเป็นความลับ หากเป็นบัตรสนเท่ห์ให้พิจารณาเฉพาะรายที่ระบุหลักฐาน
กรณีแวดล้อมปรากฏชัดแจ้ง ตลอดจนชี้พยานบุคคลแน่นอนเท่านั้น
6.1.2
ให้ส่งสำเนาเรื่องราวดังกล่าวโดยปิดชื่อผู้ร้องเรียนหรือสำเนาบัตรสนเท่ห์ให้ผู้บังคับบัญชาของผู้ถูกกล่าวโทษทำการสืบสวนทางลับ
หากไม่มีมูลที่ควรกล่าวหาว่ากระทำผิดวินัย จึงจะยุติเรื่องได้
หากกรณีมีมูลก็ให้ดำเนินการทั้งคดีทางอาญาและทางวินัย
แล้วรายงานให้ผู้บังคับบัญชาที่รับเรื่องราวมาทราบด้วย
6.1.3
ให้ผู้บังคับบัญชาที่รับเรื่องราวกล่าวโทษแจ้งให้ผู้ร้องเรียนทราบในทางลับหลังจากที่ได้รับเรื่องราวร้องทุกข์
6.1.4
ให้ผู้บังคับบัญชาใช้ดุลพินิจสั่งการตามที่เห็นสมควรเพื่อคุ้มครองผู้ร้อง พยาน
และบุคคลที่ให้ข้อมูลในการสืบสวนสอบสวน อย่าให้ต้องรับภัยหรือความไม่ชอบธรรม
ซึ่งอาจเนื่องมาจากการร้องเรียน การเป็นพยาน หรือการให้ข้อมูล นั้น
6.2
หนังสือสำนักงาน ก.พ. ที่ นร 1011/ว 26 ลงวันที่ 27 กันยายน 2547
ได้เวียนแจ้งหลักเกณฑ์และแนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับการร้องเรียนและการสืบสวนเรื่องราวกล่าวโทษข้าราชการว่ากระทำผิดวินัย
ให้ส่วนราชการทราบและถือปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง อย่างไรก็ตามเพื่อเป็นการสร้างความเข้าใจถึงหลักเกณฑ์และแนวทางการรับฟังบัตรสนเท่ห์ตามที่คณะรัฐมนตรีให้ไว้
จึงเห็นสมควรอธิบายและขายความเพิ่มเติม ดังนี้
6.2.1
บัตรสนเท่ห์จะต้องระบุหลักฐานกรณีแวดล้อมปรากฏชัดแจ้ง
หลักเกณฑ์ข้อนี้ผู้ร้องเรียนต้องชี้เบาะแส โดยระบุให้เห็นถึงพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องในเรื่องที่ร้องเรียนมาให้ชัดเจน
ซึ่งอาจเป็นพยานบุคคล พยานเอกสาร หรือพยานวัตถุ
วันเวลาและสถานที่ที่ปรากฏข้อเท็จจริง
พร้อมกับแนบเอกสารพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องมาด้วย (ถ้ามี)
ซึ่งเพียงพอที่จะสามารถดำเนินการสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริงต่อไปได้ ทั้งนี้
เพื่อที่ผู้บังคับบัญชาจะได้ใช้เป็นข้อมูลประกอบการพิจารณาว่า
เรื่องที่กล่าวหาเจ้าหน้าที่ของรัฐ
- 2 -
ผู้กระทำผิดวินัยนั้นมีเหตุผลหรือมีพฤติการณ์เชื่อมโยงพอที่จะเชื่อในเบื้องต้นหรือไม่เพียงใดว่า
ข้อกล่าวหาควรจะเป็นเช่นนั้น
6.2.2
บัตรสนเท่ห์จะต้องชี้พยานบุคคลแน่นอน
หลักเกณฑ์ข้อนี้ผู้ร้องเรียนจะต้องระบุให้เห็นถึงชื่อพยานบุคคลว่ามีใคร
เป็นใครบ้าง เพื่อที่ผู้บังคับบัญชาจะได้พิจารณาเชิญมาให้ถ้อยคำ ซักถามข้อเท็จจริง
ซึ่งพยานบุคคลที่ระบุมานี้ควรเป็นบุคคลที่ได้เห็น ได้ยิน หรือได้ทราบข้อความที่เกี่ยวข้องกับเรื่องผู้ถูกกล่าวหากระทำผิดวินัยด้วย
7. กรณีที่มีปัญหาในทางปฏิบัติเกี่ยวกับหลักเกณฑ์การรับเรื่องร้องเรียน
ร้องทุกข์
ขององค์การบริหารส่วนตำบลบัวสลีให้นายกองค์การบริหารส่วนตำบลบัวสลีเป็นผู้พิจารณาชี้ขาด
ทั้งนี้ ถ้าพิจารณาแล้วเห็นว่า หนังสือร้องเรียนกรณีบัตรสนเท่ห์ไม่ระบุหลักฐานกรณีแวดล้อมที่ปรากฏชัดแจ้ง
ตลอดจนไม่มีการชี้พยานบุคคลที่แน่นอน
ให้นายกองค์การบริหารส่วนตำบลบัวสลีสั่งยุติหนังสือร้องเรียนกรณีบัตรสนเท่ห์ดังกล่าว
ขั้นตอนการดำเนินการจัดการเรื่องร้องเรียน
ร้องทุกข์ขององค์การบริหารส่วนตำบลบัวสลี
1.
เมื่อมีเรื่องร้องเรียน ร้องทุกข์
เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบจะลงทะเบียนรับหนังสือร้องเรียน ร้องทุกข์ดังกล่าว
2. หัวหน้าสำนักปลัดองค์การบริหารส่วนตำบลองค์การบริหารส่วนตำบลบัวสลีพิจารณาในเบื้องต้น
3.
ให้ผู้ที่ได้รับมอบหมายดำเนินการตรวจข้อเท็จจริง หรือหากเป็นกรณีเรื่องร้องเรียน
ร้องทุกข์ ยุ่งยาก ซับซ้อน อาจแต่งตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงได้ตามความเหมาะสม
4.
รายงานผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงเพื่อให้ผู้บังคับบัญชาพิจารณาตามลำดับชั้น
หมายเหตุ องค์การบริหารส่วนตำบลบัวสลีจะดำเนินการและแจ้งผลการพิจารณาเรื่องร้องเรียน
ร้องทุกข์
ให้ผู้ร้องทราบ ภายใน
15 วัน นับถัดจากวันที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ร้องทุกข์ดังกล่าว
|